สวัสดีค่ะวันนี้เราพาทุกคนมา รีวิวหนัง Long Live Love ลอง ลีฟ เลิฟว์! ภาพยนตร์แนว ฮาม่า (คอมเมดี้ ดราม่า) ที่ได้ผู้กำกับ “มุก ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ” เจ้าของผลงานซิทคอม “เนื้อคู่ประตูถัดไป” และ “เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร” มารังสรรค์เรื่องราว และการโคจรมาเจอกันครั้งแรกของ “ชมพู่ อารยา” และ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรเชิญพบกับรีวิวด่านล่างนี้ได้เลยค่ะ ช่องทางการรับชม  ดูหนังออนไลน์  

เริ่มอย่างฮา ต่อมาบ่อน้ำตาแตก

รีวิวหนัง Long Live Love

รีวิวหนัง Long Live Love เรื่องย่อ

ลองลีฟเลิฟว์ เรื่องย่อ เมื่อความรักที่เคยคิดว่ามั่นคงกำลังโรยราไปตามกาลเวลาและปัญหาชีวิตคู่ที่สะสมมานานของ สติ สองร่าง (รับบทโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) และ เมตตา (รับบทโดย ชมพู่ อารยา เอ. ฮาร์เก็ต)

เลือกที่จะแยกทางกันและจบปัญหาที่เรื้อรังมานานนี้ ในระหว่างที่เมตตาจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ สติกลับประสบอุบัติเหตุทำให้สมองกระทบกระเทือนและกลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วคราว

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้ สติ สามีสุดห่วยที่เก่งเรื่องการนอกใจ กลับกลายเป็นสามีคนใหม่ที่ดีอย่างที่เมตตาไม่เคยคาดหวังมาก่อน เมื่อเรื่องราวกลับตาลปัตร เมตตา และ นะโม ลูกสาววัยรุ่นของทั้งคู่ (รับบท รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง)

ต้องช่วยให้สติกลับมาจำได้อีกครั้งผ่านกล้องถ่ายรูปตัวเก่า เมื่อความจำของสติกลับมาความไม่ดีที่เคยทำจะยังคงสนองตัวเขาหรือไม่?

รีวิวหนัง Long Live Love

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ Long Live Love! / ลอง ลีฟ เลิฟว์
กำกับ มุก ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ จาก ‘เนื้อคู่ประตูถัดไป’ และ ‘เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร’
เขียนบท มุก ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ,
แสดงนำ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต, รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง, ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร, ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม, นนท์ ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์, โบกี้ไลอ้อน
แนว/ประเภท ดราม่า, คอเมดี้
เรท น15+
ความยาว 134 นาที
ปี 2023
สัญชาติ ไทย
เข้าฉายในไทย 29 มิถุนายน 2023
ผลิต/จัดจำหน่าย M Pictures, แอม ว่ะฮาฮา

เรื่องราวของชีวิตคู่ที่จืดจาง

ส่วนตัวเราแล้วหลังดูหนังเรื่อง ลอง ลีฟ เลิฟว์ จบ คืออยากขอบคุณคนทำหนังเรื่องนี้จริง ๆ ที่ผลิตผลงานสุดสร้างสรรค์นี้ออกมา เป็นหนังไทยที่เรารู้สึกว่าคุ้มค่ากับเวลาและเงินที่เสียไปมาก ๆ เปิดฉากมาด้วยความตลกขบขำที่เล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนตลกเลยสักนิด

และมันมีความขำที่แอบตลกร้ายในหลาย ๆ จุด ในแง่ของรสชาติของหนัง เราชอบและประทับใจมาก ๆ มีทั้งขำ เศร้า น่ารัก และชวนให้ตกตะกอนทางความคิดได้ไม่น้อย ถือเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ดูจบเดินออกจากโรงหนังไปแล้วได้อะไรติดตัวไปมากกว่าแค่ความสนุกแน่นอน

ชมพู่ อารยา กับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ในหนังไทยเรื่อง ‘Long Live Love!’

ในส่วนของเนื้อหาแม้ว่าจะตัวหนังจะหยิบเรื่องของปัญหาชีวิตคู่และครอบครัวมาเล่า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปที่หลายคนคงมองว่าน่าเบื่อ แต่หนังเรื่อง ลอง ลีฟ เลิฟว์ สปอย สามารถหยิบประเด็นนี้มาเล่าได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

การใช้การถ่ายรูปเป็นตัวปลงกระดุมความทรงจำของตัวละครหลัก การใช้ภาพถ่ายเป็นเสมือนความทรงจำที่ถูกทำให้หยุดนิ่งไว้ และการให้ตัวละครหลักท่องไปในความทรงจำของตัวเองในมุมมองบุคคลที่ 3 ซึ่งจุดนี้ส่วนตัว เรามองว่าเป็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและทำให้หนังสนุกขึ้นมาก ๆ

เนื้อเรื่องเรียบง่ายแต่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ

แม้ตัวอย่างจะพาให้เรารู้สึกว่า หนังที่ไม่มีชื่อไทยเรื่องนี้จะเป็นเพียงหนังโรแมนติก-คอเมดี้ เคล้าดราม่าอีกเรื่องที่ผ่านมาและผ่านไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก

ทว่าเมื่อติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ เราน่าจะสามารถจัด Long Live Love สปอยตอนจบ เข้าไว้ในหมวดหนังไทยม้ามืดประจำปี 2566 ได้อย่างไม่ขัดเขิน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหนัง นอกเหนือจากดนตรีประกอบกลิ่นอายอีสานที่มีลูกเล่น

คือประเด็นความสัมพันธ์ที่เราเห็นได้ไม่บ่อยนักในหนังไทยเรื่องอื่นๆ เพราะแทนที่จะโฟกัสไปยังช่วงตกหลุมรักหรือตามจีบ ผู้กำกับกลับเลือกที่จะจับภาพช่วงเวลาที่ชีวิตคู่เริ่มจืดจาง

เป็นทางแยกสำคัญที่ต้องเลือกว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ โดยมีปัจจัยมากมายที่ต้องใช้ประมวลผล ทั้งชีวิตของคนเป็นลูก ใครจะเป็นฝ่ายย้ายออกไป และเราจะเสียดายเวลาที่ใช้ร่วมกันมาบ้างรึเปล่า

รีวิวหนัง Long Live Love

การอยู่กินกับใครสักคนกว่า 10 ปีคงพาความสัมพันธ์มาถึงจุดที่ต่างฝ่ายต่างเบื่อ อาจไม่ถึงกับเลิกรัก ทว่าก็ไม่น่าจะหวานแหววเหมือนอย่างวันแรก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าทั้งคู่ไม่ได้ประคับประคองความรักอย่างเอาใจใส่มากพอ หนังฉายภาพให้ผู้ชมเห็นว่า ณ จุดหนึ่งซึ่งทุกอย่างกลายเป็นความชินชา ต่างฝ่ายก็ต่างเปลี่ยนไปเป็นอีกคน กลายเป็นคนที่เราในวันแต่งงานไม่เคยคิดอยากจะเป็น

หลายครั้งเราโทษว่าเป็นความผิดของอีกฝ่าย เป็นเธอนั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องรับบทผู้ร้ายแบบนี้ และการทะเลาะเบาะแว้งก็ค่อยๆ ทำให้เราเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว

เป็นเราเองที่เปลี่ยนเขาไปทีละนิด พร้อมกับที่เขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเราเช่นกัน จนสุดท้ายคู่ของเรากลายเป็นอย่างที่เป็นในปัจจุบัน

นักแสดงถ่ายทอดดี เป็นธรรมชาติ

ทางฝั่งของนายสติ (ตัวละครชื่อนี้จริงๆ) ที่รับบทโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ก็ทำหน้าที่ได้ดีตามมาตรฐาน เป็นสามีที่มีทั้งด้านดีและแย่ เห็นถึงเนื้อแท้และเลือดเนื้อของความเป็นมนุษย์ และการร่วมเฟรมกับเบ็คกี้—รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ที่รับบทเป็นลูกสาววัยกำลังเฮี้ยวที่ชื่อนะโม ก็ดูกลมกลืนและพอจะเชื่อได้ไม่ยากว่าเขาเป็นพ่อลูกกันจริงๆ

นอกจากนี้ ทั้ง ป๋อมแป๋ม—นิติ ชัยชิตาทร ในบทพี่ชายต่างแม่ของซันนี่ ปีเตอร์—นพชัย ชัยนาม ในบทเพื่อนสายตี้ และ นนท์—ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ ในบทรุ่นน้องสายเสี้ยม ต่างก็เข้ามาเพิ่มสีสันให้เนื้อหาดราม่าหนักหน่วงมีเสียงหัวเราะเป็นช่วงๆ ตลอดเรื่อง

และอีกคนที่คงไม่ชมไม่ได้คือ เอม—ภูมิภัทร ถาวรศิริ ที่แม้จะแวะมาแจมเพียงไม่กี่นาที แต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการออกแบบคาแร็กเตอร์ แถม Long Live Love นักแสดง ก็นับเป็นหนังไทยเรื่องที่ 4 ในปีนี้ของเขาแล้วด้วย

เบคกี้

เหนือสิ่งอื่นใด ความแม่นยำของจังหวะตลกก็เป็นอีกอย่างที่เตะตา และอันที่จริงก็เตะต่อมความฮาของเราได้แทบทุกมุก

ทั้งที่หลายประโยคสนทนาของตัวละครก็ไม่ใช่คำที่เราใช้พูดกันในชีวิตจริง แต่ด้วยความชำนาญที่ผ่านซิตคอมอย่างเนื้อคู่ประตูถัดไป กับ เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร

มาแล้วของผู้กำกับที่ชื่อ มุก—ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ ก็ช่วยให้เธอเข้าใจเป็นอย่างดีว่าจังหวะขำต้องอยู่ตรงไหน จังหวะผ่อนต้องมีมากน้อยเพียงใด กลายเป็นว่าเราขำไป น้ำตาซึมไปหลายต่อหลายครั้ง

รีวิวหนัง Long Live Love บทสรุป

ซีนที่ชอบที่สุดคือ ฉากที่ทะเลาะกันริมทะเลสาบ ส่วนตัวรู้สึกว่า เป็นอีกหนึ่งจุดสูงสุดของเรื่องนี้ ที่ทำให้คนดูได้เห็นการระเบิดอารมณ์ของผู้หญิง ที่เป็นทั้งแม่ และภรรยา

กับความอดทน ความอดกลั้นจากการสูญเสียอะไรหลายอย่าง ตัวผู้ชายที่กำลังถ่ายทอดอารมณ์ของสามีอารมณ์ดี คอยหนีปัญหา และเห็นแก่ตัว ทั้งตัวซันนี่เองที่ใส่เต็ม และชมพู่เองที่เป็นเจ้าแม่ดราม่าอยู่แล้ว พอทั้งคู่ส่งต่ออารมณ์ออกมา จึงทำให้ทุกอย่างออกมาครบรส

ปีเตอร์, ซันนี่ และ นนท์ ในหนังไทยเรื่อง ‘ลอง ลีฟ เลิฟว์’

คำเตือน : ภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่กลัวความรัก ส่วนตัวดูแล้วกลัวการแต่งงาน หรือการที่จะต้องเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน

เหตุผลที่กลัวมาจากการที่กลัวถูกทำร้าย จากการที่เราเคยเจอคนรอบตัวทำร้ายกันและกัน รวมถึงกลัวว่า ตัวเองจะดีไม่พอ จนไปทำร้ายคนอื่น ส่วนคนที่อินมากๆน่าจะเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว กำลังเป็นพ่อแม่คน หรือเป็นอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่กำลังเผชิญปัญหาเช่นเดียวกับในเรื่องนี้

ความรู้สึกหลังรับชม

สุดท้ายนี้ Long Live Love ตอนจบ คือหนังที่เหมาะสมกับผู้ที่ผ่านชีวิตคู่มาสักระยะ ทว่าด้วยประเด็นความรักอันอบอุ่น ก็น่าจะทำให้คนทุกวัยรู้สึกเชื่อมโยงกับทั้งเมตตาและสติได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

และแม้ช่วงครึ่งเรื่องหลังจะมีจุดติดขัดอยู่บ้าง หนังก็ยังสามารถหยิบยื่นปลายทางที่น่าพอใจ มีทั้งสุข เศร้า และซึ้งปะปนกันไปสมกับเป็นภาพยนตร์แนวฮา-ม่า (เฮฮา-ดราม่า) อย่างที่ค่ายหวังให้เป็น

รีวิวหนัง Long Live Love

แม้ว่าตัวหนังเอง จะยังมีความไม่สมบูรณ์ในบางส่วน หรือตัดต่อไม่สมูธบ้างบางจุด แต่เมื่อเอาทุกอย่างมีรวมกัน มีคำพูดที่ทัชใจ บวกกับการได้นักแสดงที่เล่นเข้าขาเข้ามือ

ทำให้หนังที่มีทั้งพล็อตดราม่าครอบครัว ที่ใส่ความตลก ผสานเรื่องแฟนตาซี ส่งต่อไปถึงตอนจบที่น่าประทับใจ เพลง ‘เหมือนเคย’ ที่เคยพาเอิบอิ่มมานาน 20 ปี สร้างมุมมองใหม่ในอีกเส้นทางได้อย่างไม่น่าเชื่อ กระทั่งชื่อตัวละครยังดูมีความหมายที่แฝงไว้อยู่ในที

หนังรักที่เริ่มด้วยความตลก แต่จบลงด้วยความจริงจัง ไม่ใครก็ใคร ต่างก็เสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้ มันจึงกลายเป็นหนังที่กระแสดีในวันรอบสื่อนั่นเอง สุดท้ายเราขอฝากรีวิวหนัง  กลับมารักกันอีกครั้ง Here We Meet Again หนังโรแมนติกคอมเมดี้ พระนางจางปินปิน x อู๋เชี่ยน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *