มาในวันนี้เราไม่น่าจะพลาดเหลียวมองมาที่หนังรักเรื่องนี้ นี่คือ รีวิวหนัง A Tourist’s Guide to Love คู่มือรักฉบับนักท่องเที่ยว หนังรอมคอมที่มองดูไกล ๆ จากระยะร้อยกิโลเมตรก็เห็นแล้วว่า มันคือหนังรักเฉิ่ม ๆ อย่างแน่นอน แล้วมันก็เป็นแบบนั้น ผม
แต่หนังเรื่องนี้กลับสอดแทรกความงามและเสน่ห์ของประเทศเวียดนามเอาไว้ได้อย่างจับใจ ก่อเกิดกลายเป็นมนต์รักเวียดนามแบบไม่รู้ตัวติดตามหนังดังหนังรักอัพเดทใหม่ได้ที่ช่องทาง ดูหนังออนไลน์
หนังรักโรแมนติกภาพสวยโลเคชั่นดี
รีวิวหนัง A Tourist's Guide to Love เรื่องย่อ
รีวิวหนังรักโรแมนติก เป็นเรื่องราวของ อแมนด้า ผู้จัดการบริหารทัวร์ท่องเที่ยวชั้นนำ ที่เพิ่งจะเผชิญหน้ากับความความสัมพันธ์แบบห่างกันซักพักแบบไม่ทันตั้งตัว
เธอจึงตัดสินใจรับงานเข้าแทรกซึมสืบทริปทัวร์เวียดนามเพื่อสำรวจตลาด แต่ระหว่างเส้นทางนั้นเธอได้พบกับ ซินห์ ไกด์นำเที่ยวหนุ่มท้องถิ่น
ที่พวกเขาร่วมกันดื่มด่ำไปบนวิถีอันสวยงามของวัฒนธรรม และได้มีโอกาสำรวจชีวิตอีกมุมมอง
หนังเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะพล็อตเรื่องและจังหวะต่าง ๆ ก็คือสไตล์หนังโรแมนติกธรรมดา ๆ เชย ๆ ทั่วไป ที่เรามักจะยังเห็นสร้างกันออกมาเรื่อย ๆ
หนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างไปจากนั้น หนังยังอยู่ในขอบเขตของพล็อตเรื่องที่มีสูตรสำเร็จแบบเป๊ะ ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็ถือว่าเป็นหนังรักที่ดูได้ง่าย ๆ ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดอะไรเลย ดูและดื่มด่ำกับวิวงาม ๆ ของเวียดนามไป
อดีตตัวแม่หนังรอมคอมยุคก่อน “เรเชล ลีห์ คุ๊ก” รับหน้าที่แสดงนำของเธอได้ดีในหนังเรื่องนี้ เธอก็ยังคงไว้ด้วยเสน่ห์ที่เหมาะกับหนังรักอะไรแบบนี้
ถึงคาแรกเตอร์ที่เธอได้รับนั้นจะไม่มีมิติอะไรเลยก็ตาม แต่เป็นตัวละครที่แบนราบ แต่เธอสามารถขับมันออกมาได้น่าหลงใหลดีด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของเธอ
เช่นเดียวกับ “สก็อตต์ ลี” ที่ถือว่าเซอร์ไพรส์ไม่เบาที่เขาเองก็เหมาะกับหนังรอมคอมไม่น้อยเลยเช่นกัน ทั้งคู่กลายเป็นพระนางที่มีเคมีที่ลงตัวได้อย่างน่าประหลาดใจ
หนังรักโลเกชั่นเวียดนาม
หนังรักจาก Netflix ที่ได้นักแสดงสาว Rachael Leigh Cook มาเล่นเป็นนางเอก เรื่องราวของสาวผู้บริหารบริษัทท่องเที่ยวที่เลิกกับแฟนกะทันหัน
เลยตัดสินใจเดินทางไปเวียดนามเพื่อท่องเที่ยวและตรวจสอบบริษัททัวร์ที่เจ้านายของเธอกำลังจะเข้าซื้อกิจการ แต่เมื่อมาถึงเธอได้พบกับไกด์หนุ่มเวียดนามที่พาเธอท่องเที่ยวและหลงเสน่ห์เขาเต็มเปา
หนังรักสูตรสำเร็จเดิมๆ ของ Netflix ที่เหมือนกันแทบทุกเรื่อง แค่เปลี่ยนตัวนักแสดง โลเกชั่น อาชีพของตัวเอก จากนั้นก็นำมาขายเป็นหนังใหม่ให้คนดูสตรีมมิ่งได้รับชมวนไปเรื่อยทุกเดือน โดยที่ผู้กำกับหนังพวกนี้ก็มักจะไม่ค่อยมีชื่อเสียง อย่างเรื่องนี้คือ Steven K. Tsuchida ที่ไม่มีประวัติโดดเด่นอะไรเลย
ทำให้ตัวหนังที่ออกมาเหมือนเป็นงานรับจ้างทำตามสั่งจาก Netflix ขอให้แค่ให้ทำออกมาฉายเป็นรูทีนหมุนวนเปลี่ยนผู้กำกับไปเรื่อยๆ ทั้งที่ใช้โครงเรื่องเดียวกันหมด จนกลายเป็นผลงานที่ซ้ำซากดูถูกคนดูมากอีกเรื่องหนึ่งของ Netflix
การดำเนินเรื่อง
หนังถ่ายทำในเวียดนามก็จริง แต่กลับไม่สามารถนำเสนอจุดเด่นให้รู้สึกสวยงาม น่าทึ่ง ได้เลยสักครั้ง ฉากที่นำเสนอเหมือนเป็นการถ่ายทำมาแบบรีบๆ
เป็นแค่ฉากทางผ่านไปเท่านั้น ไม่มีความปราณีตใส่ใจในภาพที่ออกมา มุมกล้องธรรมดาทั่วไป ขาดฉากมุมสูงที่แนวท่องเที่ยวควรจะนำมาใช้ถ่ายทำสถานที่ต่างๆ ให้ดูอลังการ เทียบกันแล้วหนังสารคดียังถ่ายทำได้ปราณีตใส่ใจลงทุนกว่าด้วยซ้ำ
หนังยังพยายามใช้มุกตลกจากความไม่คุ้นเคยวัฒนธรรมอาหารการกินของชาวอเมริกันเมื่อมายังเอเชีย แต่มุกที่ใช้กลับเล่นง่ายแบบที่คนส่วนใหญ่เขาก็รู้กันอยู่แล้ว อย่าง มุกกินทุเรียนที่นางเอกไม่เคยรู้จัก ทั้งๆ ที่นางเอกทำบริษัททัวร์ แต่กลับไม่รู้จักทุเรียน
หรือมุกข้ามถนนที่ไม่ใช่ทางม้าลาย ผิดกฎจราจร แต่เป็นความเคยชินของคนเวียดนาม ตัวหนังก็ยังเอาเรื่องนี้มาให้นางเอกใช้ทดลองทำตาม ซึ่งนอกจากจะไม่ตลกหรือโรแมนติกแบบที่หนังพยายามสื่อ ยังดูแย่ที่ส่งเสริมเรื่องแบบนี้ให้ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติไป
ส่วนตัวเอก Rachael Leigh Cook แม้ว่าจะมีแฟนที่ชื่นชอบผลงานของเธอตั้งแต่สมัยวัยรุ่น She’s All That แต่ในปัจจุบันเธอไม่เหลือเสน่ห์แบบนั้นอีกแล้ว
แต่หนังก็พยายามหยิบจับเธอมาขายแบบเดิมๆ เป็นเหมือนหญิงสาวที่ผิดหวังจากเรื่องหัวใจ แล้วก็หลงรักคนใหม่ที่เข้ามาแบบง่ายๆ กลายเป็นบทนางเอกหนังน้ำเน่าซ้ำซาก
แล้วตัวพระเอก Scott Ly ก็ไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดให้รู้สึกแบบที่บทพยายามบิ้วว่าหล่อมาก เป็นคนเวียดนามที่ไปอยู่อเมริกาแล้วกลับมารับงานบริษัทท่องเที่ยวของพ่อ
ซึ่งบทแนวนี้นอกจากจะเติ้นเขินมาก ยังต้องผลิตซ้ำว่าพระเอกไม่สามารถเป็นคนเวียดนามท้องถิ่นได้ ต้องเป็นคนที่ไปอเมริกากลับมา เหมือนพยายามยกระดับให้ตัวละครนี้คู่ควรกับนางเอก ขาดเสน่ห์ดั้งเดิมของคนท้องถิ่นจริงๆ
นอกจากนี้ตัวละครแฟนเก่าของนางเอกก็เหมือนมีบทแบบตัดแปะ เขาโผล่เข้ามาตอนท้ายเรื่องเกือบจบแล้วเพื่อให้เป็นชนวนขัดแย้งความรัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของเรื่องเปลี่ยนไปเลย เป็นตัวประกอบผ่านมาแล้วก็ผ่านไป บทจบก็จบง่ายๆ ไม่มีอิมแพ็คอะไรกับเรื่องเลยสักนิด
พล็อตเรื่อง
A Tourist’s Guide to Love ซับไทย อาจจะยังไม่ใช่หนังรักที่สมบูรณ์แบบอะไรเลย แต่การได้เห็นหนังที่มีเนื้อหาในละแวกแถว ๆ เพื่อนบ้าน
เราก็ทำให้รู้สึกเหมือนดูหนังที่คุ้นเคยเลย และหนังเรื่องนี้ถือว่ามีส่วนที่ช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวให้กับเวียดนามได้แบบเต็ม ๆ
เพราะมันเป็นโร้ดทริปแห่งรักที่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์คสำคัญ ๆ ของประเทศ ตั้งแต่ใต้จรดเหนือเลย และพวกเขาก็ถ่ายทอดวัฒนธรรมของเวียดนามออกมาอย่างน่าประทับใจไม่น้อยเลย
เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้วนั้น A Tourist’s Guide to Love ถือว่าเป็นที่ดูได้เพลิน ๆ อาจจะยังไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟคอะไร บทหนังก็ยังเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จง่าย ๆ
ไม่มีอะไรซับซ้อน และเต็มไปด้วยว่าซ้ำซาก แต่ภาพการท่องเที่ยวของเวียดนามจะทำให้คนดูเอ็นจอยไปกับมัน และยังได้นักแสดงนำที่ค่อนข้างเข้าขากันดี มาช่วยประคับประคองเรื่องนี้เอาไว้ได้ดูล้างตาแบบอิ่มเอมได้ดีอยู่
รีวิวหนัง A Tourist's Guide to Love บทสรุป
ว่าตามจริงมันอาจเป็นเพียงหนังรักโรแมนติกอีกเรื่องที่ Netflix ผลิตออกมา และหนังอาจไม่ได้ยอดเยี่ยมเจ๋งเป้งอะไรมากมาย แต่เราว่ามันทำหน้าที่ได้อย่างพอเหมาะไม่ว่าจะตอบโจทย์บันเทิง เล่าเรื่องรักๆ พาไปเที่ยวที่สวยๆ และสอดแทรกอะไรๆ ที่มัน Feel Good
พล็อตเล่าง่ายค่ะ อแมนด้า ไรลี่ย์ (Rachael Leigh Cook) ทำงานด้านท่องเที่ยวและเธอกำลังเฮิร์ตเพราะเพิ่งแยกทางกับแฟนหนุ่ม เธอเลยตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเวียดนามโดยใช้บริการบริษัททัวร์ท้องถิ่นซึ่งในเวลาเดียวกันเธอก็ต้องทำการประเมินว่าบริษัทแห่งนี้ควรค่าแก่การซื้อกิจการหรือไม่
แล้วเธอก็ได้เจอกับซินห์ (Scott Ly) หนุ่มเวียดนามที่พาเธอทัวร์ทั่วเวียดนามในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร
อ่านพล็อตแล้วน่าจะเดาอะไรๆ ได้หมดล่ะนะ ตั้งแต่คู่พระนางที่ดูก็รู้ว่าจะต้องตกหลุมรักกันแน่ๆ รวมถึงปมขัดแย้งที่จะทำให้พระนางคู่นี้ทะเลาะกันในตอนที่หนังเดินไปค่อนเรื่อง ก่อนจะพาเราไปสู่บทสรุปชวนลุ้นนิดๆ ว่าพระนางจะกลับมาคืนดีกันได้อย่างไร
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง A Tourist’s Guide to Love คู่มือรักฉบับนักท่องเที่ยว
ประเภท: โรแมนติก / ตลก / ผจญภัย
ผู้กำกับ: สตีเว่น เค. ทัตชิดะ
นำแสดงโดย: เรเชล ลีห์ คุ๊ก, สก็อตต์ ลี
ความยาว: 94 นาที
กำหนดฉายในไทย: 21 เมษายน 2023 (ที่ Netflix)
ความรู้สึกหลังรับชม
รวมๆแล้วเราว่าใช้ได้นะ อย่างแรกเลยที่ประทับใจเรา ต้องยกให้ภาพวิวต่างๆ ของเวียดนามค่ะ หนังว่าด้วยเรื่องการท่องเที่ยว แล้วหนังก็เหมือนพาเราไปเที่ยวเวียดนามจริงๆ
มีสถานที่สวยๆ ธรรมชาติงามๆ ให้ดูเยอะมาก และที่ต้องขอชมเลยคือฝีมือของ Jon Keng ผู้กำกับภาพ ที่จับภาพมาขึ้นจอได้แบบขึ้นกล้องสุดๆ ตั้งแต่ภาพถนนในเมืองที่มีสีสันของร้านค้าตัดกันอย่างพอเหมาะ ยาวไปจนถึงภาพธรรมชาติป่าเขาท้องทุ่งอันเขียวขจี คือสวยมากน่ะคะ สวยเลยจริงๆ
เรานี่ตายแบบจริงๆ จังๆ ตอนหนังเดินเรื่องไปถึงเมืองฮอยอันน่ะ แค่ภาพแรกซีนแรกของเมืองนี่ก็สวยถึงตายแล้ว ไหนจะภาพตรอกซอกซอยที่มีโคมไฟประดับอีก
พูดได้เต็มปากเลยค่ะ ว่าพระเอกตัวจริงของหนังคืองานภาพนี่แหละ นอกจาก Keng จะนำภาพสวยๆ มาฝากแล้ว เขายังสามารถจับอารมณ์และบรรยากาศของสถานที่นั้นๆ ใส่ลงมาได้อย่างดี ทำเอาอยากไปเที่ยวบ้างเลยล่ะครับ
นักแสดงก็ถือว่าดี Rachael Leigh Cook ก็ยังดูน่ารักอยู่ ส่วน Scott Ly ก็ดูมีเสน่ห์แบบหนุ่มเอเชียที่ดูบ้านๆ ลุยๆ และมีความเป็นตัวของตัวเอง
แม้ระหว่างดูจะแอบรู้สึกว่าพี่แกตั้งหน้าตั้งตาจีบจนออกหน้าออกตาไปหน่อยก็ตาม ในขณะที่บทอื่นๆ ถือว่าเป็นบทแวดล้อม ยังไม่มีใครเด่นหรือขโมยซีน แม้แต่ Missi Pyle ที่มักจะขโมยซีนบ่อยๆ ก็ยังดูเรื่อยๆ สำหรับเรื่องนี้
แต่รายที่เราชอบมากเป็นพิเศษต้องยกให้ Nsut Le Thien ในบทคุณย่าของซินห์ เราว่าย่าเขาน่ารักมากเลยนะ และยังแสดงความรู้สึกผ่านแววตาได้ดี
คือดูออกเลยน่ะ ว่าย่าเขาคิดอะไรอยู่ เป็นชูรสที่เยี่ยมเอาการสำหรับหนังเรื่องนี้– ยกเว้นใครไม่ถูกเส้นกับบทแบบนี้ก็อาจมองว่าย่าเขาดูจุ้นจ้าน ก็อาจจะแล้วแต่บุคคล ส่วนเรา นั้นชอบนะ ย่าเขาน่ารักดี
อีกหนึ่งของดีคือเพลงประกอบเลือกมาได้เหมาะ ไพเราะเป็นส่วนใหญ่และยังเข้ากับอารมณ์ของฉากนั้นๆ ด้วย
ใครอยากผ่อนคลายและโอเคกับหนังรัก Netflix เรื่องนี้เราว่าตอบโจทย์ค่ะ สุดท้ายเราขอฝาก รีวิวหนัง A Perfect Pairing คู่นี้ คือเพอร์เฟค แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ฟีลกู๊ด