สวัสดีค่ะวันนี้ผู้เขียนมี หนังรักเกาหลี มาแนะนำผู้อ่านทุกคน นั่นมีชื่อเรื่องว่า 20th Century Girl หรือ 20 เซนจูรี่ รักนี้ซาบซ่า หนังรักยุคแอนะล็อกเรื่องใหม่แกะกล่องจาก Netflix รวมทีมนักแสดงดาวรุ่งนำโดยนางเอกหน้าใส คิมยูจอง ประกบคู่หนุ่มหล่อหุ่นนายแบบ บยอนอูซอก พวกเขาพร้อมแล้วที่จะพาเราหวนคืนสู่วันวานแสนหวานชื่น ขมขื่นแต่ยังงดงาม สามารถรับชมได้ที่ช่องทาง ดูหนังออนไลน์
หนังรักย้อนวัย คิมยูจอง x บยอนอูซอก
รีวิวหนัง 20th Century Girl เรื่องย่อ
20th Century Girl เรื่องย่อ เป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของนาโบรา (คิมยูจอง) เธอเป็นเด็กสาววัย 17 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่กำลังน่ารักสดใส
บ้านของนาโบราประกอบอาชีพร้านเช่าวิดีโอในทุก ๆ วันที่มีเวลาว่างนาโบราก็มักจะช่วยงานพ่อของเธอที่ร้านเสมอ นาโบรามีเพื่อนสนิทอยู่หนึ่งคนเธอมื่อว่าคิมยอนดู (โนยุนซอ)
ทั้งสองสนิทกันมาก แต่คิมยอนดูเป็นโรคหัวใจในภาคเรียนนี้เธอต้องเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อทำการผ่าตัดหัวใจอย่างจริงจัง
ในช่วงเวลาที่ต้องแยกจากกันคิมยอนดูก็ไม่อยากไปขึ้นมา แต่ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงนาโบราแต่เป็นเพราะคิมยอนดูได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ทำให้เธอตกหลุมรัก
ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็มีชื่อว่าแบคฮยอนจิน (พัคจองอู) นาโบราต้องการให้เพื่อนไปผ่าตัดหัวใจเลยยินดีที่จะช่วยเธอเพื่อสืบข่าวคราวของแบคฮยอนจิน แนะนำหนังเกาหลีแนวโรแมนติกดราม่าลีกลับ รีวิวหนัง Decision to Leave
แบคฮยอนจินเป็นหนุ่มหล่อและฮอตมาก ๆ ในสายชั้น เขามีเพื่อนสนิทที่มีชื่อว่าพุงอุนโฮ (บยอนอูซอก) แน่นอนว่าทั้งคู่เป็นหนุ่มหล่อที่หลาย ๆ คนแอบชอบ
หลังจากที่คิมยอนดูเดินทางไปต่างประเทศนาโบราก็ทำทุกอย่างเพื่อสืบข่าวของพัคฮยอนจิน ในทุก ๆ ครั้งที่มีข่าวอะไรใหม่ ๆ
นาโบราก็ได้ส่งอีเมลทุกอย่างที่เธอค้นพบไปให้กับคิมยอนดู ตั้งแต่ขนาดรองเท้า หมายเลขเพจเจอร์ไปจนถึงที่อยู่บ้านของพัคฮยอนจิน
แต่ในระหว่างที่นาโบรากำลังสืบข่าวของพัคฮยอนจิน เธอก็ได้ใกล้ชิดกับพุงอุนโฮซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพัคฮยอนจิน อีกทั้งทั้งคู่ยังอยู่ชมรมเดียวกันด้วย
หลังจากมีชีวิตมา 17 ปีเป็นครั้งแรกในชีวิตของนาโบราที่ได้ตกหลุมรักคนคนหนึ่งและเธอก็ได้รู้ว่าพุงอุนโฮมีความรู้สึกดี ๆ กับเธอเช่นเดียวกัน
แต่เมื่อคิมยอนดูกลับมาเรื่องราวก็พลิกผันเพราะคนที่คิมยอนดูชอบจริง ๆ คือพุงอุนโฮแต่ในวันที่คิมยอนดูได้เจอเขาเป็นครั้งแรกเป็นวันที่พุงอุนโฮสวมเสื้อของแบคฮยอนจิน
ส่วนแบคฮยอนจินก็ตกหลุมรักนาโบราเช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ของนาโบรา พุงอุนโฮ แบคฮยอนจินและคิมยอนดูจะเป็นไปอย่างไรอย่าลืมไปติดตามกันค่ะ
บทบาทนักแสดง
คิมยูจอง รับบทเป็น นาโบรา เด็กหญิงก๋ากั่นสดใสวัยมัธยม ลูกสาวคนโตในบ้านที่ทำกิจการร้านเช่าวิดีโอ สำหรับเธอแล้วมิตรภาพสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด กระทั่งวันหนึ่งที่หัวใจได้สัมผัสกับความรักจนเริ่มสับสน
บยอนอูซอก รับบทเป็น พุงอุนโฮ เด็กหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากนิวซีแลนด์หลังครอบครัวหย่าร้าง เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมวิทยุกระจายเสียงของโรงเรียนจนได้พบกับรักแรกที่ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
พัคจองอู รับบทเป็น แพคฮยอนจิน นักกีฬาบาสเกตบอลผู้ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มป๊อบประจำโรงเรียน เขาเป็นคนจริงใจ มีนิสัยเปิดเผยและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทที่ตัวติดกับพุงอุนโฮไปทุกที่
โนยุนซอ รับบทเป็น ยอนดู เด็กสาวผู้เติบโตมาพร้อมกับนาโบราจนเปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน แม้จะมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจทำให้สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่เธอยังสดใสและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ
ข้อมูลทั่วไปของภาพยนตร์ 20 เซนจูรี่ รักนี้ซาบซ่า
แนวภาพยนตร์ โรแมนติก ดราม่า
เขียนบท บังอูรี
กำกับการแสดงโดย บังอูรี
ช่องทางออกอากาศ Netflix
เวลาในการออกอากาศ 1 ชั่วโมง 59 นาที
นักแสดงนำ คิมยูจอง (นาโบรา)
บยอนอูซอก (พุงอุนโฮ)
พัคจองอู (แบคฮยอนจิน)
โรยุนซอ (คิมยอนดู)
นักแสดงสมทบ ฮันฮโยจู (นาโบราตอนโต)
จองซอกยง (พ่อของนาโบรา)
อีชุนโม (นาบาดา)
องซองอู (โจเซฟ)
ย้อนกลับไปรื้อลิ้นชักแห่งความทรงจำ
มีฉากหลังอยู่ในปี 1999 หนังจึงพาเราย้อนตะเข็บเส้นเวลาเพื่อชักชวนไปสัมผัสบรรยากาศยุคแอนะล็อกที่เคยรุ่งเรือง
ตลอดทั้งเรื่องอบอวลไปด้วยเสน่ห์จากข้าวของเครื่องใช้ที่ดูจะทันสมัยที่สุดในห้วงเวลานั้นไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่นวิดีโอ ตู้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์จอตู้ กล้องถ่ายรูป เพจเจอร์
รวมไปถึงการเก็บรายละเอียดสถานที่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ยานพาหนะ ตลอดจนกิมมิกเล็ก ๆ ที่นำมาร้อยเรียงเป็นองค์ประกอบฉาก
สิ่งละอันพันละน้อยที่ผ่านตาตลอดสองชั่วโมงทำให้ความสนุกในวันวานผุดขึ้นมาเป็นระยะ เชื่อว่าใครเติบโตมาในยุค 90 จะมีความสุขมากเมื่อได้ดูเรื่องนี้
นอกจาก 20 เซนจูรี่ รักนี้ซาบซ่า จะสามารถเก็บรายละเอียดของบ้านเมืองได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว หนังยังมาพร้อมงานโปรดักชันที่ละเมียดละไม
ถือเป็นอีกหนึ่งมิติที่ช่วยเชื่อมโยงความรู้สึกของคนดูให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเรื่องราวได้อย่างแยบยล ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โทนสี ออกแบบองศาของแสงให้ดูฟุ้งฝัน
การบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครผ่านคลิปวิดีโอ รวมทั้งดนตรีและเพลงประกอบฉากที่ลงตัวกับข้อความสำคัญต้องการสื่อสาร
องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยแต่งแต้มบรรยากาศช่วงปี 1999-2000 ให้อบอวลไปด้วยเสน่ห์ที่มีชีวิตชีวา เสมือนว่าเราได้ร่วมเดินทางไปกับตัวละครตั้งแต่ต้นจนจบแบบครบถ้วน
ต้นทางเฮฮาหัวเราะ ปลายทางน้ำตาร่วง
ขอบอกเลยว่าภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีไม่เคยทำให้เราได้พักตับพักไตเลยค่ะเพราเรื่องนี้ก็มีกลิ่นดราม่าออกมาตั้งแต่นาทีแรก ๆ เลย
ในตอนแรกความสัมพันธ์ของนาโบราและพุงอุนโฮเหมือนจะไปได้ด้วยดีค่ะ แต่ตัวของพุงอุนโฮเองเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน
แม่ของเขาอยู่ที่นิวซีแลนด์ ส่วนพ่อของเขาอยู่ที่เกาหลี วันหนึ่งพุงอุนโฮได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเขาเพื่อให้เขากลับไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ในตอนแรก
เขาไม่อยากไปและคิดว่าพ่อของเขาจะช่วยเหลือเขาได้ แต่สุดท้ายแล้วพ่อของเขาก็แนะนำให้เขาเดินทางกลับนิวซีแลนด์เช่นเดียวกัน ทำให้พุงอุนโฮไม่มีทางเลือกอื่น
ในคืนก่อนที่เขาจะจากไปน้องชายของนาโบราล้มป่วยและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แม้ว่าพุงอุนโฮจะมาที่บ้านของนาโบราด้วยความหวังว่าจะได้พบเธอเป็นครั้งสุดท้าย
แต่ก็ไม่ได้พบกับเธอเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในระหว่างความสัมพันธ์ ทำให้พุงอุนโฮต้องเดินทางไปโดยลำพังและผิดหวัง
แต่เช้าวันรุ่งขึ้นที่โรงเรียนคิมยอนดูได้เล่าให้นาโบราฟังว่าพุงอุนโฮจากไปแล้ว ทำให้นาโบรารีบไปที่สถานีรถไฟทันที สุดท้ายแล้วพุงอุนโฮและนาโบราก็ได้เจอกันอีกครั้ง
การจากลาของพวกเขาจบลงด้วยการมีน้ำตา ตลอดหลายปีที่ผ่านมานาโบราได้พยายามค้นหาร่องรอยของพุงอุนโฮ แต่ทว่าต่อให้พยายามกี่ครั้งนาโบราก็ไม่สามารถจับเจอกับพุงอุนโฮได้
เวลาผ่านไปหลายปีนาโบราก็เข้าสู่วัยกลางคนแบบเต็มตัวเธอได้รับบัตรชมเทศกาลศิลปะเธอเลยตัดสินใจเดินทางไป
เมื่อไปเยี่ยมชมเทศกาลศิลปะนาโบราเห็นความทรงจำในโรงเรียนทำให้เธอคิดถึงอดีต เพราะที่นั่นเธอได้พบกับมิตรภาพและรักแรก
สุดท้ายเมื่อภาพความทรงจำรันไปเรื่อย ๆ นาโบราก็ได้ค้นพบความจริงที่ว่าพุงอุนโฮไม่ได้หายไปไหนแต่จริง ๆ 20 เซนจูรี่ รักนี้ซาบซ่า เต็มเรื่อง
แล้วที่เขาไม่ได้ติดต่อมาเลยเพราะเขาได้เสียชีวิตและได้จากเธอไปเป็นเวลานานแล้ว แน่นอนว่าในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกันในศตวรรษที่ 21 ตามที่เขาสัญญาไว้ก่อนออกเดินทางแต่เป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายผ่านวิดีโอและจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วในอนาคตนั่นเองค่ะ
รีวิวหนัง 20th Century Girl บทสรุป
เรียกว่าหนังเรื่องนี้ เป็นแหล่งรวมนักแสดงงานดีที่ล้วนกำลังเป็นดาวเด่นของวงการก็ว่าได้ เริ่มจาก คิมยูจอง นางเอกยิ้มหวานที่เห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่ยังเป็นดาราเด็ก
เรื่องนี้เธอยังคงไว้ซึ่งความสดใสเพื่อถ่ายทอดบุคลิกสาวน้อย ม.ปลาย ที่แสบซ่าก๋ากั่นไม่ยอมใคร ความโหวกเหวกโวยวายที่ปกติอาจจะดูน่ารำคาญแต่คิมยูจองสามารถทำให้มันดูเป็นคาแรกเตอร์ที่น่ารักน่าหยิก
แถมยังส่งเคมีดีเกินต้านหวานเกินเบอร์ให้กับ บยอนอูซอก หนุ่มหล่อหน้าใสลักยิ้มละลายใจที่ได้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัว นอกจากบุคลิกจะลงล็อกพอดีกับตัวละครแล้ว ทักษะการแสดงของหนุ่มคนนี้ก็ดีวันดีคืนด้วยเช่นกัน
ทางฝั่งของ พัคจองอู ที่เพิ่งเดบิวต์เป็นนักแสดงไปได้ไม่นานแต่ก็มีผลงานให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องนี้ตัวละครของเขามีความยียวนกวนประสาท
แน่นอนว่าหนุ่มคนนี้ก็ไม่พลาดที่จะทำให้เราได้แอบอมยิ้มทุกฉากที่เขาปรากฏตัว ขาดไม่ได้คือ โนยุนซอ น้องใหม่ผู้เคยครองใจคนดูมาอย่างล้นหลามจากซีรีส์ Our Blues (2022)
ด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่เป็นสองรองใครจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเธอจึงได้บทบาทที่สำคัญมากขึ้นในทุกผลงาน
นอกจากนักแสดงนำทั้งสี่แล้วยังมีดาราชื่อดังมาร่วมเป็นแขกรับเชิญกันอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ฮันฮโยจู องซองอู และ กงมยอง มากันแน่นแบบนี้บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน
ความรู้สึกหลังรับชม
สำหรับผู้เขียนอีกสิ่งที่ชอบคือการเลือกช่วงเวลาในปี 1999 ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากวิกฤต Y2K ที่หลายคนกังวลว่าโลกอาจจะแตกในปี 2000
ทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่เกาหลีใต้ก็ยังเพิ่งตั้งไข่กับนโยบายคลื่นวัฒนธรรมฮันรยู (การส่งออกวัฒนธรรมเกาหลี) ที่ก็ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ซึ่งหนังก็หยิบเอาวัฒนธรรมป๊อปในยุคนั้นเข้ามาใส่ อย่างเช่นหนังเรื่อง An Affair ภาพยนตร์เรท R จากปี 1998
นำแสดงโดยอีจองแจก่อนที่จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจาก Squid Game และการถอดคาแรกเตอร์นางเอกเกาหลีในยุคนั้นผ่านบุคลิกของโบรา เหมือนเป็นการทริบิวต์แบบกลายๆ ให้กับความสำเร็จจากวันนั้นถึงวันนี้
นอกจากนี้ งานโปรดักชั่นก็มีได้คุณภาพ องค์ประกอบของภาพเสียงอิ่มตาเพลินหูไม่มีตกมาตรฐานงาน Netflix ช่วยเสริมมุมเด่นของเรื่องนี้
ใครที่มีส่วนร่วมกับยุคสมัยตามท้องเรื่องก็เชื่อว่าคงจะอินมากขึ้นเป็นพิเศษ ย้ำอีกครั้งว่านี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นนะ แต่ก็ยังดูเพลินได้ และอยากแนะนำให้ลองไปดูกันด้วย
โบนัสนักแสดงรับเชิญ คนแรกก็คือ ฮันฮโยจู ที่มาสวมบทเป็น ‘โบรา’ ในยุคปัจจุบัน โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบฮันฮโยจูมาก
แต่ก็ยังติดใจความเข้ากันกับคิมยูจองอยู่บ้าง เหมือนยังไม่ลงล็อกนัก คู่นี้จริง ๆ แล้วก็เคยแสดงเป็นตัวละครเดียวกันมาแล้วคือ ‘ทงอี’
มุมน่าเอ็นดูของฮันฮโยจูคือท้องเรื่องที่เป็นเมืองชองจูนี้ก็คือบ้านเกิดจริง ๆ ของเธอด้วย ส่วนนักแสดงรับเชิญคนอื่น ๆ เช่น กงมยอง, อีบอมซู, พัคแฮจุน, รยูซึงรยง ก็มาช่วยกันคนละเล็กละน้อย และอีกคนสำคัญคือ องซองอู ที่มาปิดท้าย เป็นตัวละครสำคัญในการไขปมปิดเกมเรื่องราวค่ะ
ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ จึงเป็นหนังรักย้อนวัยที่ถ่ายทอดกลิ่นอายยุค 90 ออกมาได้เป็นอย่างดี ชี้ชวนให้เราหวนคิดถึงความหอมหวานในช่วงวัยเด็กผ่านเรื่องราวความรัก ความฝัน มิตรภาพ และการจากลา
เล่าเรื่องออกมาได้สนุก ละมุนละไม และคงไว้ซึ่งความเพลิดเพลินได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะต้องแลกมาด้วยความซ้ำซากจำเจตามแพ็กเกจสำเร็จรูปของหนังแนวนี้
รวมทั้งข้อจำกัดด้านเวลาที่อาจทำให้บางประเด็นไม่ได้รับการขยี้จนกระทบไปถึงแก่นใจของคนดู ทว่าความละเมียดของโปรดักชันและเสน่ห์ของนักแสดงก็ช่วยอุ้มชูให้มองข้ามข้อบกพร่องบางอย่างไปได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจมากนัก
ถือเป็นสองชั่วโมงที่คุ้มค่า หวังว่าหลายคนที่ได้ดูจะอิ่มเอมไปกับความรักอันบริสุทธิ์ของหนุ่มสาวในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย