และนี่ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำ ให้ทุกคนดูจริง ๆ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อเรื่องว่า About Time ย้อนเวลาให้เธอปิ๊งรัก เกี่ยวกับชายที่ย้อนเวลาได้ เขาได้พบกับหญิงสาวที่คิดว่าใช่จึงทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตใจเธอ แม้จะต้องย้อนเวลากลับไปกี่รอบก็ตามเป็น หนังแนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ สามารถรับชมได้ที่ช่องทาง ดูหนังออนไลน์

About Time เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ ทิม เลค ที่ค้นพบว่าตัวเองสามารถเดินทางย้อนเวลาได้… ในคืนหลังจากงานปาร์ตี้ที่ห่วยแตกในนิวยอร์ก พ่อของทิม ได้เล่าให้ลูกชายของเขาฟังว่า

ผู้ชายในตระกูลเขามีความสามารถในการเดินทางย้อนเวลาเสมอ ทิม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้

แต่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นและเคยเกิดขึ้นมาแล้วในชีวิตของเขาได้ เขาก็เลยตัดสินใจจะทำให้โลกนี้สวยงามขึ้น ด้วยการหาแฟนซักคน น่าเศร้า ที่มันอาจไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คุณคิด

หลังจากที่ย้ายจากคอร์นวอล ไปสู่ลอนดอน เพื่อฝึกฝนการเป็นทนายความ ในที่สุด ทิม ก็ได้พบกับ แมรี่ สาวสวยที่ไม่มั่นใจในตัวเอง พวกเขาตกหลุมรักกัน

แต่การเดินทางย้อนเวลาที่ผิดพลาดก็หมายความว่าเขาไม่เคยได้พบเธอเลย ดังนั้น พวกเขาก็เลยได้พบกันเป็นครั้งแรกอีกครั้ง และก็อีกครั้ง และท้ายที่สุด

หลังจากการเดินทางข้ามเวลาหลายครั้งหลายหนอย่างชาญฉลาด เขาก็เอาชนะใจเธอได้สำเร็จ

หลังจากนั้น ทิม ก็ใช้พลังของตัวเองในการสร้างสรรค์ความโรแมนซ์ และมาค้นพบว่าพรสวรรค์พิเศษนี้ของเขาไม่สามารถช่วยเขาไม่ให้เจอกับความโศกเศร้า

และเรื่องราวดีและร้ายที่ส่งผลกระทบต่อทุกครอบครัว ทุกหนทุกแห่งได้ มันมีข้อจำกัดในสิ่งที่การเดินทางย้อนเวลาสามารถทำได้ และมันก็เป็นเรื่องอันตรายด้วยเช่นกัน

ด้วยความที่เป็นหนังย้อนเวลา เหตุการณ์ในเรื่องอาจจะถูกเล่าตัดสลับไปมาบ้าง แต่ดูแล้วเข้าใจได้ไม่ยากนะคะ

นางเอกหนังเรื่องนี้ คือ Rachel McAdam เล่นได้น่ารักมาก เราเชื่อเลยว่าเธอคือผู้หญิงที่พระเอกพยายามจะย้อนเวลาไปซ้ำๆ เพื่อจะจีบและเอาชนะใจเธอให้ได้จริงๆ เราชอบแววตา ชอบรอยยิ้ม เธอเป็นคนที่ยิ้มแล้วหน้าตาสดใส บวกกับผมม้าในเรื่องนี้ ทำให้ยิ่งมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก About Time ตัวละคร

นอกจากราเชลแล้ว หนังเรื่องนี้ก็มีอีกหลายๆอย่างดึงดูดให้เราเปิดดูได้ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ทั้งโทนสีของหนัง เป็นสีอบอุ่นๆ ดูแล้วสบายตา เพลงประกอบก็เพราะ

โดยเฉพาะเพลง How long will I love you ซึ่งอาจจะเป็นเพลงโปรดของใครหลายๆ คน รวมถึงเราด้วย สำหรับเรา เพลงนี้ทำให้หนังน่าสนใจขึ้นและอินกับหนังขึ้นมากๆเลย

การเล่าเรื่องของหนังก็น่าสนใจนะ ถึงจะเป็นพล็อตย้อนเวลาธรรมดาๆ แต่การตัดสินใจย้อนเวลาของพระเอกแต่ละครั้งนั้นนอกจากทำเพื่อจะกลับไปแก้ไขสิ่งที่เคยผิดพลาดในอดีตแล้ว

ก็มีย้อนเวลากลับไปจีบนางเอก จนกว่านางเอกจะยอมรับรัก ดูไปก็เขินไป 5555 จีบกันได้น่ารักจริงๆ

นอกจากประเด็นเรื่องความรักของพระเอกกับนางเอกแล้ว หนังนำเสนออีกเรื่องนึง คือความรัก ความสนิทสนมระหว่างพระเอกและครอบครัว ทั้งพ่อ แม่ น้องสาว เป็นพาร์ทที่ดูแล้วอบอุ่นใจไม่แพ้พาร์ทความรักกุ๊กกิ๊กเลยค่ะ

หนังเรื่องนี้สอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับเวลาเอาไว้ด้วยล่ะ สำหรับเรา หนังเรื่องนี้สอนเราว่า’เวลาเป็นสิ่งมีค่า ให้ใช้แต่ละวันให้คุ้มค่าและทำมันออกมาให้ดีที่สุด ชีวิตทุกวันก็จะมีความหมาย’

นี่คือผลงานของผู้กำกับ “ริชาร์ด เคอร์ติส” ที่เขายังรับหน้าที่เขียนบทหนังเรื่องนี้เองด้วย พร้อมกับได้เจ้าแม่หนังโรแมนซ์ “เรเชล แม็คอดัมส์” มาแสดงนำ

ร่วมด้วยทีมนักแสดงชาวอังกฤษอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น “ดอมเนลล์ กลีสัน”, “บิลล์ ไนฮีย์”, “ทอม ฮอลแลนเดอร์” หรือ “มาร์โก้ ร็อบบี้” มายังมาร่วมแจมในหนังเรื่องนี้ด้วย

ประเภท: โรแมนติก / แฟนตาซี
นำแสดงโดย: เรเชล แม็คอดัมส์, ดอมเนลล์ กลีสัน, บิลล์ ไนฮีย์
กำกับโดย: ริชาร์ด เคอร์ติส
ความยาว: 119 นาที
เข้าฉายครั้งแรก: 10 ตุลาคม 2556 (กำหนดฉายในประเทศไทย)

เป็นภาพยนตร์เก่าปี 2013 เป็นหนังครอบครัวแนว โรแมนติก คอมมาดี้ ดูแล้ว Feel good อมยิ้มตลอดเรื่อง ฉากดำเนินเรื่องไม่หวือหวาเป็นการถ่ายทอดชีวิตเรื่อย ๆ

แต่ไม่น่าเบื่อ เล่าเรื่องได้น่าสนใจ ควรค่าแก่การดูสุด ๆ ภาพสวย ดำเนินเรื่องดี นักแสดงสมบทบาท พระเอกดูหน้าจืด ๆ บื้อ ๆ หน่อยแต่ก็มีเสน่ห์ในตัวเอง นางเอกน่ารักมาก ยิ้มหวาน

ดูแล้วยิ้มตามตลอด พ่อของพระเอกที่เป็นตัวละครเอกอีกหนึ่งตัวในเรื่อง ก็แสดงดีมาก ช่วยดำเนินให้เรื่องสนุกและน่าสนใจ เป็นส่วนที่ช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้จบดีมาก ๆ

ส่วนตัวชอบตอนจบมาก รู้สึกว่าได้ข้อคิดดี ๆ ในการใช้ชีวิตจากหนังเรื่องนี้ หนังมีการสอดแทรกเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันที่ดูแล้วมันอิ่มใจ

ทำให้นึกถึงคนรอบข้างเสมอ โดยเฉพาะคนในครอบครัว รู้เลยว่าหลาย ๆ อย่างที่ผ่านมาในชีวิต มันดีมาก

ซึ่งผู้เขียนดูแล้วรู้สึกดีประทับใจมาก ยกให้เป็นหนังเรื่องโปรดอันดับหนึ่งของเราเลย ตอนที่ดูครั้งแรกเราร้องไห้ด้วย ไม่ได้ร้องเพราะเศร้านะแต่ไม่รู้ทำไม มันร้องด้วยความปิติ หนังทำดีมากจริง ๆ บรรยากาศ การดำเนินเรื่อง ทุกอย่างลงตัว

เรามักแนะนำให้คนรอบข้างดูเสมอ ใครที่ว่าง ๆ อยากได้แรงบันดาลใจก็ลองไปหาดูกันนะคะมันดีมาก ๆ ห้ามพลาดควรไปดู หลายคนตกหลุมรักหนังเรื่องนี้มาแล้ว และมันอาจจะกลายเป็นหนังเรื่องโปรดของคุณด้วยเช่นกัน

การย้อนเวลา หากคุณสามารถย้อนเวลาได้คุณจะใช้พลังนี้ไปทำอะไร ซึ่งหนังเรื่องนี้เล่าถึงพระเอกที่ใช้พลังวิเศษนี้ไปตามหารักแท้

โดยช่วงแรกๆของหนังเราจะเห็นว่าพระเอกของเรื่องนั้นใช้พลังนี้ไปทำอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งหากคุณจะรู้สึกว่าพระเอกนั้นใช้บ่อยมากๆก็ไม่แปลก About Time full movie

อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ในช่วงที่กำลังตื่นเต้นกับพลังที่มี และถ้าคุณดูไปเรื่อยๆคุณจะเริ่มเห็นว่าพระเอกนั้นใช้พลังน้อยลง ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าพระเอกได้เรียนรู้อะไรบางอย่างแล้ว

ความรัก เนื่องจากคุณย้อนเวลาได้บางครั้งการที่จะยอมให้คนที่คุณรักต้องลำบากมันก็เป็นเรื่องที่คุณจะรู้สึกว่ายอมไม่ได้ และคุณพยายามจะช่วยให้คนที่คุณรักสุขสบาย

แต่การจะทำอะไรแบบนี้มันมักจะต้องแลกกับอะไรบางอย่างซึ่ง เราจะเห็นว่าพระเอกได้ใช้พลังนี้แต่สุดท้ายก็ไม่ใช้และเลือกที่จะปล่อยมันไปแบบนั้น

และหนึ่งในฉากที่ประทับใจก็คงจะเป็นฉากที่เขาย้อนอดีตไปกับพ่อของเขา ซึ่งถ้าพูดไปมากกว่านี้อาจจะทำให้หนังไม่สนุกดังนั้นไปดูเองจะดีกว่า

บอกได้เลยว่ามันไม่ใช่ความรักที่เกิดกับแฟนอย่างเดียว มันแทรกความรักของครอบครัวเข้ามาอีกด้วย

หนังรักที่หลายคนหลงรัก จากการหยิบกิิมมิคเรื่องการย้อนเวลามาใส่ในชีวิตคนธรรมดา โดยที่ไม่ต้องเน้นความสมเหตุสมผล หรือ Butterfly Effect

ตามสไตล์หนังย้อนเวลาแบบ Sci-Fi แต่ฉีกรูปแบบให้เป็นหนังดราม่า โรแมนติก ที่ใส่ความแฟนตาซีจ๋าๆ ในเรื่องย้อนเวลากันเข้าไปเลย ซึ่งก่อนอื่นๆ

ต้องขอชมการแสดงของ Domhnall Gleeson ในบทผู้ชายซื่อๆ ธรรมดาๆ ที่ดูเป็นแบบนั้นจริงๆ กับในส่วนของ Rachael McAdams ที่ปกติก็น่ารักในทุกๆ เรื่องอยู่แล้ว

พอมาเรื่องนี้ที่บทดูส่งไปอีก ก็ต้องละลายตายไปกับรอยยิ้มของเธอได้เลยทีเดียว ซึ่งเคมีของทั้งคู่ในเรื่องก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ

แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่พาร์ทที่เป็นความโรแมนติกเท่านั้น เพราะทีเด็ดของหนังจริงๆ ก็คือความสัมพันธ์ในครอบครัวซะมากกว่า

โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกในเรื่อง ที่ถ่ายทอดออกมาได้สวยงามมาก จนอดน้ำตาไหลไปด้วยความปลื้มปริ่มกับเรื่องราวของพวกเขาไม่ได้เลย

ด้วยการดำเนินเรื่องสนุก มีการหยอดมุขน่ารักๆ เข้ามาตลอดทั้งเรื่อง ในพาร์ทดราม่าก็ไม่ได้ดึงให้คนดิ่ง แต่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจเสียมากกว่า

ก็ทำให้หนังมีความฟีลกู้ดในทุกอณูที่ทำให้คนดูสามารถอมยิ้ม หัวเราะ ไปกับๆ ทุกฉากของหนังได้เลย

ในส่วนที่ทำให้หนังโดดเด่นมากกว่าหนังรักเรื่องอื่นๆ ของ Richard Curtis ก็คงเป็นในเรื่องของแนวคิดที่เติบโตขึ้นของผู้กำกับ

ที่ในเรื่องนี้เขาก็ดึงเอาประสบการณ์และการมองชีวิตมาใช้ปรับเข้ากับหนัง และมอบข้อคิดดีๆ ในเรื่องการใช้ชีวิตที่ไม่มีวันย้อนกลับได้เหมือนอย่างตัวเอกในเรื่องจนทำให้

เราอยากใช้ทุกวันในชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย เก็บเกี่ยวความสุขที่อย่างที่ผ่านมาในชีวิตให้ได้มากที่สุด จนไม่แปลกนักที่หนังเรื่องนี้จะเป็นที่รักของใครๆ

หลายคนแม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังดีระดับสายรางวัล แต่ใน 2 ชั่วโมงของมันก็ได้มอบสิ่งดีๆ ให้หัวใจคนดูพองโต และเต็มอิ่มไปด้วยความรู้สึกดีๆ

หนังออกฉายครั้งแรกในบ้านเรา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2556 และได้กระแสตอบรับค่อนข้างน่าพอใจ หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างแค่เพียง 10 กว่าล้านเหรียญ

แต่กวาดเงินทั่วโลกมาได้เกือบ 90 ล้านเหรียญเลยทีเดียว อีกทั้งหนังยังมีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง

และยังได้รับคำวิจารณ์เฉลี่ยที่่ไม่ได้น่าผิดหวังที่ 69% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes เป็นหนังรักที่เปิดดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ แนะนำหนังรักแนว โรแมนติกดราม่า รีวิวหนัง The Curious Case of Benjamin Button